เสือมังกร ไพ่ใบเดียว

เสือมังกร หรือ เรียกว่า ดราก้อนไทเกอร์ ( Dragontiger online )

เสือมังกร คืออะไร และ วิธีการเล่นเสือมังกร

  • ดราก้อนไทเกอร์ หรือ เสือมังกร เป็นไพ่ ที่ปรับปรุงมาจากไพ่ บาคาร่า เพราะว่าการเล่นบาคาร่า นั้นมีกติกาที่ ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการสับสน และ มีการโกงเกิดขึ้นจากการที่ฝั่งเจ้ามือจะจั่วหรือไม่จั่ว
  • ดังนั้นไพ่เสือมังกรนี้จึงปรับให้ไม่ต้องจั่วเพิ่ม ใช้แค่ไพ่ใบเดียวตัดสินกันไปเลยโดยแบ่งเป็นฝ่ายเสือ(Tiger)และฝ่ายมังกร(Dragon)
  • ฝ่ายไหนได้ไพ่แต้มสูงกว่าก็เป็นฝ่ายชนะไป ง่ายๆแบบนี้เลยไม่ต้องคาใจเรื่องทำไมถึงไม่จั่วอีกต่อไป
  • ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ่อน และคาสิโน ไม่แพ้เกม สล็อต, รูเล็ท ไฮโล เลยทีเดียว โดยตัวเกม Dragon Tiger นั้นจะมีวิธีการเล่นที่คล้ายคลึงกับ เกมบาคาร่า หรือไพ่ป็อกเด้ง

 

วิธีเล่น เสือมังกร ( ดราก้อนไทเกอร์  )

  • เมื่อทำการล็อกอินเข้าสู่หน้าเกมเรียบร้อยแล้วนั้น ให้ผู้เล่นทำการเลือกโต๊ะเสือ มังกร ที่ต้องการอยากจะเล่น ซึ่งมีโต๊ะ เสือ มังกร ให้เลือกเล่นหลากหลายโต๊ะด้วยกัน โดยวิธีการเล่นของเกม เสือ มังกร นั้น
  • ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันตามที่ทางเว็บกำหนดมาให้ไม่ว่าจะเป็นเลือกแทง ฝั่งเสือ(Tiger) ฝั่งมังกร(Dragon) แทงเสมอ(Tie) จากนั้นเจ้ามือจะทำการคัดไพ่ทิ้งก่อน 1 ใบแล้ว
  • จึงเปิดไพ่ทีละฝั่งอย่างละ 1 ใบ วัดกันที่แต้มฝ่ายไหนใหญ่ กว่าก็ชนะคนแทงฝั่งนั้นก็ได้เงินไป แต่ถ้าหากออกเสมอ เจ้ามือจะหักเงินครึ่งนึงของเดิมพันจากคนที่แทงเสือและมังกร
  • อัตราการจ่ายในไพ่ เสือมังกร
  • แทงฝั่งเสือ(Tiger) แทง 1 จ่าย 1
  • แทงฝั่งมังกร(Dragon) แทง 1 จ่าย 1
  • แทงเสมอ(Tie) แทง 1 จ่าย 8
  • แทงเสือ จะเป็นผู้ชนะ อัตราจ่าย 1 : 1
  • แทงมังกร จะเป็นผู้ชนะ อัตราจ่าย 1 : 1
  • แท่งไพ่คู่ อัตราจ่าย 1 : 11
  • แทงไพ่เสมอ อัตราจ่าย 1 : 30
  • แต้ม เสือ มังกร ของแต่ละใบ

แต้มของไพ่ของเสือแต่ละใบจะมีความหมายตามตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าไพ่ ดังนี้

ไพ่ A = 1 แต้ม

ไพ่ 2 = 2 แต้ม

ไพ่ 3 = 3 แต้ม

ไพ่ 4 = 4 แต้ม

ไพ่ 5 = 5 แต้ม

ไพ่ 6 = 6 แต้ม

ไพ่ 7 = 7 แต้ม

ไพ่ 8 = 8 แต้ม

ไพ่ 9 = 9 แต้ม

ไพ่ 10 = 10 แต้ม

ไพ่ J = 11 แต้ม

ไพ่ Q = 12 แต้ม

ไพ่ K = 13 แต้ม

สรุปการนับแต้มไพ่ เสือ มังกร

ไพ่ K มีแต้มคือ 13

ไพ่ Q มีแต้มคือ 12

ไพ่ J มีแต้มคือ 11

ไพ่ 2-10 มีแต้มตามเลขหน้าไพ่ที่ปรากฎ

ไพ่ A มีแต้มคือ 1

กติกาการเล่น

กติกาแทง เสือหรือมังกร : การนับแต้ม กรณีเลขเหมือนกัน โดยจะวัดกันที่ดอกของไพ่เรียงตามลำดับที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่าง เสือ 9 ดอกจิก มังกร 9 โพแดง = มังกรชนะ

กติกาแทงไพ่คู่ : คือไพ่ที่เปิดออกมาแล้วเป็นเลขคู่ ทั้ง 2 ฝ่ายโดยไม่นับดอก หากผู้เล่นวางเดิมพันไว้ช่องไพ่คู่ จึงจะได้รับเงิน * ตัวอย่าง เสือ 8 โพแดง มังกร 8 โพดำ เป็นต้น *กรณีที่ตานั้นออกไพ่คู่และแต้มเท่ากัน แต่ผู้เล่นวางเดิมพันที่ช่อง เสือ หรือ มังกร จะวัดตามดอกที่กำหนดไว้ เช่น เสือ 8 โพแดง มังกร 8 โพดำ = มังกรชนะ

กติกาแทงเสมอกัน : กรณีที่ผู้เล่นวางเดิมพันในช่อง “ เสมอ ” ไพ่และดอกของทั้งสองฝ่ายจะต้องเท่ากันเช่น เสือ 10 โพดำ มังกร 10 โพดำและหากในตานั้นผู้เล่นวางเดิมพันในช่องเสือหรือมังกร ขณะที่แต้มของไพ่ออกมาเสมอ กัน เจ้ามือจะเป็นฝ่ายได้เงินเดิมพันไป

ความพิเศษของ ไพ่เสือมังกร

ด้วยความที่เป็นการพัฒนาต่อยอดออกมา ทำให้ด้านความสนุกและตื่นเต้นย่อมเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเป็นเกมที่รวดเร็วรู้ผลในทันทีไม่ต้องมีข้อ

มีข้อข้องใจการจั่วจึงทำให้เกมมันสนุกจนได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญไปกว่านั้นเป็นเกมที่ทำเงินได้ค่อนข้างมากยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่เคยเล่น

บาคาร่า มาก่อนด้วยแล้วยิ่งทำให้การดูหน้าไพ่หรือสถิติทำได้ง่ายขึ้น แม้จะดูเป็นเกมที่ต้องใช้ดวงแต่หลายๆคนก็ทำให้เห็นมาแล้วว่าสถิติช่วยทำเงินได้มากกว่าในเกมไพ่เสือมังกรนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *