5 ตำรับมวยไทย
มวยไทยนั้นมีหลักการพื้นฐานเดียวกัน คือ การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก และศีรษะ ก่อเกิดกระบวนท่าทางต่าง ๆ นับร้อย ๆ กระบวนท่า โดยในแต่ละท้องที่ได้พัฒนาความสามารถและความถนัดในเชิงมวยที่แตกต่างกัน ซึ่งสะท้อนออกมาในลักษณะของความชำนาญในเชิงมวยและเทคนิควิธี โดยเฉพาะการคาดเชือกมีการเปรียบเปรยความสามารถเชิงมวยของท้องถิ่นต่างๆ ว่า “หมัดหนัก โคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ไวกว่าท่าเสา ครบเครื่องพลศึกษา”
1.มวยไทยมวยลพบุรี เป็นมวยที่ชกฉลาด รุกรับคล่องแคล่วว่องไว ต่อยหมัดตรงได้แม่นยำ เรียกว่ามวยเกี้ยว หมายถึงมวยที่ใช้ชั้นเชิงเข้าทำคู่ต่อสู้โดยใช้กลลวงมากมาย เคลื่อนตัวอยู่เสมอ หลอกล่อ หลบหลีกได้ดี สายตาดี รุกรับและออกอาวุธหมัด เท้า เข่า ศอกได้อย่างรวดเร็ว
2.มวยโคราช มีการแต่งกาย การคาดเชือก การจดมวย การฝึกซ้อม การร่ายรำ และรูปแบบวิธีการชกที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการชกหมัดวงกว้างหนักหน่วงเรียกว่า “หมัดเหวี่ยงควาย”
3.มวยไชยา เป็นศิลปะมวยประจำถิ่นอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งสมัยรัชการที่ 5 นอกจากการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก แล้วยังมีวิชาการต่อสู้เช่น การ “ทุ่ม ทับ จับ หัก” การเรียนการสอนเริ่มตั้งแต่เรียนป้องกันตัว “ป้อง ปัด ปิด เปิด” จากนั้นจึงเรียนลูกไม้มวยไทยต่าง ๆ ต่างจากมวยทั่วไปที่เน้นการโจมตีปรมาจารย์ไชยาที่มีชื่อเสียงคืออาจารย์เขตร ศรียาภัย
4.มวยท่าเสา อุตรดิตถ์ มีความโดดเด่นในการจดมวยกว้างและให้น้ำหนักตัวไปทางด้านหลัง เท้าหน้า สัมผัสพื้นเบาๆ ทำให้ออกมวยได้ไกล รวดเร็วและรุนแรง หมัดหน้าห่างจากหน้าสูงกว่าไหล่ หมัดหลังจะต่ำ และอีกมวยหนึ่งในสายของพระยาพิชัยดาบหักนั้น เป็นทั้งมวยอ่อนและแข็ง สามารถรุกรับตามสถานการณ์ รู้วิธีรับก่อนรุก เรียนแก้ก่อนผูก เรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเองและคู่ต่อสู้
5.มวยพลศึกษา เป็นมวยที่ฝึกมาจากสายอื่น ๆ บ้างแล้ว เมื่อมาเรียนต่อที่สถาบันการพลศึกษา ได้เรียนรู้กลยุทธ์เพิ่มเติมโดยมีอาจารย์กิมเส็ง ทวีสิทธิ์ ปรมาจารย์มวยที่มีชื่อเสียง
มีความเชี่ยวชาญหมัดซึ่งศึกษามาจากหม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ สวัสดิกุล ซึ่งได้ทรงศึกษาการชกมวยสากลของประเทศไทย จนได้ชื่อว่าเป็นบิดามวยสากลของประเทศไทย
นอกจากหมัดแล้วยังเน้นความเร็ว จังหวะเข้า – ออก อย่างแคล่วคล่องว่องไว เรียกได้ว่ามวยพลศึกษาเป็นมวยครบเครื่อง
เครื่องรางของขลัง มวยไทย
เครื่องรางของขลัง หมายถึง วัตถุมงคลที่ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของนักมวย สามารถป้องกันอันตรายได้ ซึ่งนักมวยเชื่อว่าจะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด คุ้มกำลัง
มีมงคลสำหรับสวมศีรษะและประเจียดผูกติดกับต้นแขน ทำด้วยสายสิญจน์หรือผ้าดิบที่เกจิอาจารย์เป็นผู้เขียนอักขระหัวใจมนต์ คาถา และเลขยันต์ แล้วถักหรือม้วนพันด้วยด้ายหรือสายสิญจน์
ห่อหุ้มด้วยผ้าซึ่งผ่านพิธีกรรมจากครูบาอาจารย์ อิทธิฤทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพิธีกรรม อำนาจของไสยเวทย์
มงคล คือ เครื่องผูกศีรษะ และมงคลสูงสุดของนักมวย หมายถึง ความมีลาภ เคราะห์ดี ความสุข ความระมัดระวัง ถือเป็นความศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูง เป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถป้องกันภัยให้กับนักมวยได้
มงคลมักทำจากด้ายหรือเชือกหรือผ้าดิบหลายชิ้นที่ลงอักขระ หัวใจมนตรา คาถา อาคม และเลขยันต์กำกับ นำมาถักและขึ้นรูปเป็นวงกลมให้กระชับศีรษะ
ประเจียด คือ เครื่องผูกแขน เป็นเครื่องรางของขลังอีกอย่างหนึ่งของนักมวย เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางที่คุ้มกันตัวนักมวยไทย ทำด้วยเชือกหรือผ้าลงเลขยันต์และอักขระมนตรา ส่วนมากทำจากผ้าดิบสีแดง ใช้ผูกที่ต้นแขนหรือคล้องคอก็ได้
เอกลักษณ์ของมวยไทยที่ทำให้มวยไทยมีความโดดเด่นและถือเป็นศิลปะชั้นสูงคือการใช้อวัยวะต่างๆ เป็นประดุจดังเกราะและอาวุธ ใช้ชั้นเชิงไหวพริบและวิชาเข้าต่อสู้กัน ไม่ใช่กำลังแต่เพียงอย่างเดียว กอปรด้วย “ศาสตร์” อันได้แก่การเรียนรู้จุดอ่อน จุดแข็งของร่างกายที่จะพิชิตและเอาชนะคู่ต่อสู้ “ศิลป์” คือ ลักษณะการใช้นวอาวุธอันมีรายละเอียดปลีกย่อยอย่างพิสดาร ทำให้มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมนต์ขลังและเป็นการต่อสู้ที่มีชั้นเชิงเป็นที่ประทับใจของคนทั้งโลกการฝึกมวยโบราณ